หน้าจอของ Huawei Watch GT 4 ถือเป็นอัญมณีที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การรับชมภาพของผู้ใช้ ด้วยความละเอียด 466 x 466 พิกเซล และความหนาแน่น 326 PPI ในรุ่น 46 มม. จอแสดงผล AMOLED ขนาด 1,43 นิ้วนี้ให้คุณภาพของภาพที่ไม่ธรรมดา. สีมีความสดใสและความคมชัดเป็นพิเศษ ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในแสงแดดโดยตรง นอกจากนี้ การตัดสินใจเปิดหน้าจอไว้ตลอดเวลายังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการให้ผู้ใช้ตรวจสอบเวลาและข้อมูลอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเปิดใช้งานตลอดเวลา
เทคโนโลยี AMOLED โดดเด่นด้วยการนำเสนอสีดำที่ลึกล้ำและคอนทราสต์ที่เข้มข้นมีส่วนทำให้เกิดประสบการณ์การรับชมที่ดื่มด่ำ นอกจากนี้ หน้าจอสัมผัสยังตอบสนองต่อการโต้ตอบอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าคุณจะปัดนิ้วหรือใช้เม็ดมะยมที่หมุนอยู่ก็ตาม
ความอเนกประสงค์ของจอแสดงผลเสริมด้วยตัวเลือกในการปรับแต่งหน้าปัดด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ เช่น ก้าว ชีพจร อุณหภูมิ และอื่นๆ ความสามารถในการปรับตัวนี้ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับอุปกรณ์ ทำให้ผู้ใช้แต่ละคนสามารถกำหนดค่าหน้าจอได้ตามความต้องการและความต้องการ
โดยสรุปแล้ว หน้าจอของ Huawei Watch GT 4 ไม่ใช่แค่หนึ่งในสมาร์ทวอทช์หลายรุ่นในตลาดเท่านั้นแต่ยังเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยของนาฬิกา มอบประสบการณ์การรับชมภาพที่ยอดเยี่ยมและปรับให้เข้ากับความต้องการของไลฟ์สไตล์สมัยใหม่
สองเวอร์ชัน
Huawei Watch GT 4 มีจำหน่ายหลายรุ่น โดยมีตัวเลือกขนาดและสไตล์เพื่อให้เหมาะกับความชอบของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน สองรุ่นหลักคือ:
- หัวเว่ยนาฬิกา GT 4 46 มม.:
- ขนาดและการออกแบบ: ด้วยตัวเรือนขนาด 46 มม. รุ่นนี้มีการออกแบบที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตัวเรือนมีรูปทรงแปดเหลี่ยมและทำจากสแตนเลส ให้รูปลักษณ์ที่ทันสมัยและโดดเด่น สายเชื่อมต่อสเตนเลสสตีลช่วยให้มีสไตล์หรูหราและใช้งานได้หลากหลาย
- จอแสดงผล: มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1,43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล และความหนาแน่น 326 PPI
- หัวเว่ยนาฬิกา GT 4 41 มม.:
- ขนาดและการออกแบบ: รุ่นนี้มีตัวเรือนขนาด 41 มม. ที่กะทัดรัดยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาที่บางและเบากว่าบนข้อมือ การออกแบบยังรวมตัวเรือนสเตนเลสสตีลทรงแปดเหลี่ยมไว้ด้วย แต่มีขนาดเล็กกว่า
- จอแสดงผล: มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1,32 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล และความหนาแน่น 352 PPI
ทั้งสองรุ่นมีคุณสมบัติหลักร่วมกัน เช่น Harmony OS, เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและออกซิเจนในเลือด, การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2, การกันน้ำระดับ IP68 และคุณสมบัติการติดตามกีฬาและสุขภาพ ทางเลือกระหว่างทั้งสองรุ่นจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลในแง่ของขนาดนาฬิกาและการออกแบบ นอกจากนี้ ภายในแต่ละรุ่น ยังมีตัวเลือกการปรับแต่งเพิ่มเติม เช่น ประเภทสายรัดและสีที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งตัวเลือกให้เข้ากับสไตล์ส่วนตัวของตนเองได้
คุ้มมั้ย?
ใช่อย่างแน่นอน ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้จำนวนมากที่จะไม่รู้สึกไม่พอใจในทุกสถานการณ์ แทบจะไม่มีนาฬิกาเรือนใดที่มีดีไซน์อเนกประสงค์เช่นนี้ หน้าจอที่สดใสในเทคโนโลยี Amoled ในราคาเท่านี้ หากเราเสริมด้วยว่าราคาต่ำกว่าคู่แข่งโดยตรงบางราย เช่น Apple Watch มาก สมการนี้ก็จะส่งผลให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความรอบด้านมาก และอย่าพูดไปดีกว่านี้อีก